การผลิตเครื่องแก้ววัดปริมาตรของเหลวในเชิงการค้า ต้องควบคุมคุณภาพผลิตภัณฑ์ให้มีคุณลักษณะตามมาตรฐานสากล จึงจะสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้
คุณลักษณะตามมาตรฐานสากล ได้แก่ มาตรฐานที่กําหนดโดยองค์กรซึ่งเป็นที่น่าเชื่อถือและยอมรับในระดับนานาชาติ เช่น
- National Institute of Standards and Technology (NIST), สหรัฐอเมริกา

- American Society for Testing and Materials (ASTM), สหรัฐอเมริกา
ASTM เป็นองค์กรมาตรฐานสากลที่พัฒนาและเผยแพร่มาตรฐานทางเทคนิคสำหรับ วัสดุที่ใช้ผลิต, ผลิตภัณฑ์, ระบบและการบริการ มีการใช้มาตรฐาน ASTM กว่า 12,000 มาตรฐานทั่วโลกเพื่อปรับปรุงคุณภาพผลิตภัณฑ์, เสริมสร้างสุขภาพและความปลอดภัย รวมถึงสร้างการเข้าถึงตลาดและการค้าและสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค

- United States Pharmacopeia (USP), สหรัฐอเมริกา
มาตรฐานอ้างอิงของ USP เป็นตัวอย่างทางกายภาพที่มีลักษณะโดดเด่นที่ใช้ในการทดสอบโดยอุตสาหกรรมยาและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องเพื่อช่วยให้มั่นใจได้ถึงเอกลักษณ์, คุณภาพและความบริสุทธิ์ของยา (ยาชีวภาพและสารเพิ่มปริมาณ) ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมและส่วนผสมอาหาร รวมถึงภาชนะที่ใช้บรรจุยาด้วย

- Internationals Organization for Standardization (ISO), ประเทศอังกฤษ
ISO เป็นองค์กรอิสระระหว่างประเทศไม่ขึ้นกับรัฐบาลใด มีหน่วยงานมาตรฐาน 163 แห่งทั่วโลก ISO ได้ออกมาตรฐานมามากกว่า 21,000 มาตรฐานสากลและเอกสารที่เกี่ยวข้องซึ่งครอบคลุมเกือบทุกอุตสาหกรรมตั้งแต่เทคโนโลยีความปลอดภัยของอาหารไปจนถึงการเกษตรและการดูแลสุขภาพ

- British Standards Institution (BSI), ประเทศอังกฤษ

- Deutsches Institut fur Normung (DIN), ประเทศเยอรมัน

หน่วยงานด้านมาตรฐานดังกล่าว ได้กําหนดมาตรฐานเกี่ยวกับข้อกําหนดคุณลักษณะ (specification) ของเครื่องแก้ววัดปริมาตรแต่ละชนิดรวมถึงวัสดุที่ใช้ทําเครื่องแก้ว นอกจากนี้บางมาตรฐานยังได้กําหนดวิธีใช้และวิธีการสอบเทียบไว้ด้วย เพื่อให้ผู้ใช้และผู้สอบเทียบเครื่องแก้วสามารถปฏิบัติได้ ถูกต้องตามหลักวิชา
ข้อกําหนดคุณลักษณะของเครื่องแก้ววัดปริมาตรตามมาตรฐานสากลมีรายละเอียด ประกอบด้วย
1. หน่วยที่ใช้วัดปริมาตรของเหลวเป็น ลูกบาศก์เซนติเมตร (cm3 ) หรือ มิลลิลิตร (มล. ,mL)
2. อุณหภูมิอ้างอิง 20 หรือ 27 องศาเซลเซียส
3. สมบัติและองค์ประกอบของแก้วที่ใช้ทําเครื่องแก้ววัดปริมาตร กําหนดในมาตรฐาน ASTM E 438-94
4. ค่าความคลาดเคลื่อนที่ยอมรับได้ขึ้นอยู่กับ ชนิดของเครื่องแก้ว ความจุ และชั้นคุณภาพ
5. ความเสถียรของรูปทรง เช่น มาตรฐาน BS 1792 :1982 และ ISO 1042-1981 กําหนดให้ เครื่องแก้ววัดปริมาตรที่มีฐานเป็นวงกลม ใช้งานโดยการวางบนพื้น เช่น ขวดวัดปริมาตร กระบอกตวง กําหนดให้เครื่องแก้ววัดปริมาตรที่มีความจุตั้งแต่ 25 มล. ขึ้นไป สามารถวางบน พื้นเอียงเป็นมุม 15 องศา ได้โดยไม่ล้ม เครื่องแก้ววัดปริมาตรที่มีความจุ ต่ำกว่า 25 มล. สามารถวางบนพื้นเอียงเป็นมุม 10 องศา ได้โดยไม่ล้ม ส่วนมาตรฐาน ASTM E 694-95 กําหนดให้เครื่องแก้ววัดปริมาตรที่มีฐานเป็นวงกลมใช้งานโดยการวางบนพื้น กําหนดให้เครื่อง แก้ววัดปริมาตรที่มีความจุ ตั้งแต่ 10 มล. ขึ้นไป สามารถวางบนพื้นเอียงเป็นมุม 15 องศา ได้โดยไม่ล้ม และเครื่องแก้ววัดปริมาตรที่มีความจุ ต่ำกว่า 10 มล. สามารถวางบนพื้นเอียงเป็น มุม 10 องศา ได้โดยไม่ล้ม
6. ลักษณะของขีดกําหนดปริมาตร เครื่องแก้ววัดปริมาตรที่มีขีดกําหนดปริมาตรมากกว่า 1 ขีด กําหนดให้ขีดมีความกว้าง 0.2-0.4 มม. และเครื่องแก้ววัดปริมาตรที่มีขีดกําหนดปริมาตรขีดเดียวกําหนดให้ขีดมีความกว้าง 0.2-0.6 มม. ขีดกําหนดปริมาตรต้องทําจากวัสดุที่ทนต่อสารเคมีและความร้อน เป็นสีน้ําตาล หรือสีฟ้า ใช้วัสดุที่มีลักษณะมองเห็นชัดเจน ผู้ใช้เครื่องแก้ว วัดปริมาตรสามารถทดสอบก่อนซื้อเครื่องแก้ว โดยนําเครื่องแก้วตัวอย่างแช่ในน้ํายาล้างเครื่องแก้วที่มีใช้ในห้องปฏิบัติการ สีต้องไม่ละลายหลุดออกมา หากขีดกําหนดปริมาตรไม่ชัด เจนมีผลกระทบต่อการวัดปริมาตรทําให้การอ่านค่าคลาดเคลื่อน
7. กําหนดรายละเอียดที่ต้องแสดงบนเครื่องแก้ว (inscription) รายละเอียดที่แสดงบนเครื่องแก้ว มีความสําคัญต่อผู้สอบเทียบและผู้ใช้เครื่องแก้ว เนื่องจากเป็นสิ่งที่แสดงวิธีสอบเทียบค่าความคลาดเคลื่อน ชั้นคุณภาพ ซึ่งทําให้ผู้ใช้เครื่องแก้วสามารถแยกชนิดของเครื่องแก้วได้ถูกต้อง
8. กําหนดการใช้รหัสสีบนเครื่องแก้ว (color coding) กําหนดในมาตรฐาน ISO 1769-1975 เพื่อให้สามารถสังเกตความแตกต่างเบื้องต้น เครื่องแก้วที่ให้สีต่างกันแสดงว่ามีความแตกต่างกันอย่างน้อย 1 รายการ เช่น ความจุ ความละเอียดในการแบ่งขีดย่อยเป็นต้น
ดังนั้นในการเลือกซื้อเครื่องแก้ววิทยาศาสตร์แต่ละครั้ง จึงต้องคำนึงถึงมาตรฐานต่างๆเหล่านี้ด้วย ว่ายี่ห้อของเครื่องแก้วที่เราจะซื้อนั้น ผ่านเกณฑ์มาตรฐานจากหน่วยงานเหล่านี้หรือไม่ เพื่อให้มั่นใจได้ว่า การอ่านค่าต่างๆจากเครื่องแก้วเหล่านี้จะได้ค่าที่ถูกต้องและแม่นยำนั่นเอง Kimble® แบรนด์เครื่องแก้ววิทยาศาสตร์ชั้นนำจากสหรัฐอเมริกา ได้รับมาตรฐานทั้งวัสดุที่ใช้ในการผลิต และกระบวนการผลิตทุกขั้นตอน ผู้ใช้จึงมั่นใจได้ถึงการใช้งานและผลลัพธ์ที่ได้รับจะมีความถูกต้องและแม่นยำอย่างแน่นอน
เลือกชมเครื่องแก้ววิทยาศาสตร์จาก Kimble® ได้ที่นี่

ใบรับรองมาตรฐานของโรงงานผลิต Kimble
ที่มา : อุมาพร สุขม่วง, สํานักพัฒนาศักยภาพนักวิทยาศาสตร์ห้องปฏิบัติการ 7 พฤษภาคม 2546